7 สัญญาณที่บอกว่า ถึงเวลาย้ายงานใหม่แล้ว!
29/04/2568 | 20

ในวันที่การทำงานไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเดือนอีกต่อไป แต่เกี่ยวพันกับคุณภาพชีวิต สุขภาพจิต และความมั่นคงระยะยาว หลายคนจึงเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “หรือถึงเวลาที่เราต้องย้ายงานใหม่แล้วนะ?” และถ้าคุณกำลังรู้สึกลังเลว่าอยากเปลี่ยนงาน บทความนี้แอดจะพาคุณไปสำรวจ 7 สัญญาณที่มักเกิดขึ้นก่อนที่คนจะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตการทำงานกัน พร้อมแนะแนวการวางแผนคร่าว ๆ สำหรับคนที่คิดจะย้ายที่ทำงานใหม่ค่ะ
ทำไมหลายคนถึงเครียดกับการย้ายงานใหม่ ?
แม้จะรู้สึกอึดอัดกับงานที่ทำอยู่ แต่หลายคนก็ยังตัดสินใจไม่ลง และรู้สึกเครียดถ้าต้องเปลี่ยนงานใหม่ เพราะมีความกลัวหลายอย่างตามมา เช่น กลัวไม่มีงานใหม่รออยู่ กลัวว่าจะเสียโอกาสดี ๆ ไป หรือบางทีก็ผูกพันกับเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าที่เข้าใจกันดี แต่ในขณะเดียวกันการอยู่ต่อก็มีต้นทุนที่เราต้องจ่ายเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพจิตที่แย่ลง ความฝันที่ถูกเลื่อนออกไป และเวลาชีวิตที่หมดไปในที่ที่ไม่ใช่
เช็กเลย! 7 สัญญาณที่บอกว่าคุณควรย้ายงานใหม่ได้แล้ว

7 สัญญาณที่เราควรพิจารณา มีดังนี้
1. คุณไม่รู้สึกเติบโตในหน้าที่การงานแล้ว
ถ้าคุณรู้สึกเหมือนกำลังวนอยู่กับสิ่งเดิม ๆ ทุกวัน ไม่มีโปรเจกต์ใหม่ให้ลองทำ ไม่มีเป้าหมายที่ท้าทาย หรือไม่มีแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาทำงาน แม้ว่าคุณจะทำหน้าที่ได้ดีแต่ก็ไม่มีคำชม ไม่มีแผนพัฒนา ไม่มีวี่แววเลื่อนตำแหน่ง หรือไม่ได้รับโอกาสให้ได้แสดงศักยภาพอื่น ๆ เลย สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นชัดเจนแล้วว่า คุณไม่ได้เติบโตในที่เดิมอีกต่อไป เพราะเมื่อการเรียนรู้หยุดนิ่ง อนาคตก็หยุดตามไปด้วย และนี่อาจเป็นเวลาที่คุณควรมองหาโอกาสที่ใหญ่กว่าผ่านการย้ายงานใหม่ ไปในที่ที่มองเห็นความสามารถของคุณ และพร้อมสนับสนุนให้คุณพัฒนาตัวเองได้มากกว่านี้ค่ะ
2. งานที่ทำขัดกับคุณค่าหรือความเชื่อส่วนตัว
คุณอาจทำงานให้บริษัทที่เน้นผลลัพธ์เป็นหลัก จนต้องทำสิ่งที่คุณรู้สึกไม่สบายใจ เช่น การโกหกลูกค้า, การทำงานล่วงเวลาเกินความจำเป็น, หรือการสนับสนุนแนวทางที่คุณไม่เห็นด้วย เมื่อคุณต้องตัดสินใจในสิ่งที่สวนทางกับสิ่งที่คุณเชื่อทุกวัน หรือรู้สึกฝืนใจตลอดเวลาที่ต้องทำงาน แสดงว่าคุณกำลังแลกคุณค่าของตัวเองกับค่าจ้าง เพราะการทำงานไม่ควรรู้สึกขัดแย้งกับตัวตน และถ้าคุณอยากมีความสุขกับงานที่ทำ การเปลี่ยนงานไปสู่องค์กรที่ตรงกับค่านิยมของคุณจะทำให้คุณรู้สึกมีความหมายกับสิ่งที่ทำมากขึ้นได้ค่ะ
3. คุณรู้สึกเหนื่อยล้าแบบสะสม จนไม่มีความสุขกับชีวิตส่วนตัว
ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยล้าจนรู้สึกหมดแรงตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำงาน ร่างกายไม่ไหว จิตใจก็ยิ่งไม่ไหวไปใหญ่ พอกลับบ้านมาก็ยังคิดวนแต่เรื่องงานจนเครียด นอนไม่หลับ รวมถึงในวันหยุดก็ยังรู้สึกเหมือนไม่ได้พัก หรือรู้สึกผิดที่ไม่ทำงาน อันนี้คือสัญญาณของการ Burnout ที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดเลยค่ะ เพราะการฝืนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะกับสุขภาพจิต อาจส่งผลต่อชีวิตโดยรวมทั้งเรื่องสุขภาพกาย ความสัมพันธ์ และความสุขส่วนตัว ดังนั้น การฟังเสียงร่างกายและจิตใจของตัวเอง แล้วพิจารณาเปลี่ยนที่ทำงานใหม่อย่างรอบคอบ อาจเป็นทางออกที่ดีกว่าการฝืนตัวเองไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่ตัวเราพังนะคะ
4. คุณไม่ได้รับการยอมรับ หรือไม่มีใครเห็นคุณค่าในสิ่งที่ทำ
ถ้าคุณพยายามทำเต็มที่แล้ว แต่ก็เหมือนไม่มีใครสังเกตเห็น เสนองานไปแล้วไม่มี Feedback ไอเดียดี ๆ ถูกมองข้าม หรือแม้แต่เครดิตในผลงานก็ถูกโยนให้คนอื่น ถ้าองค์กรไม่เห็นความสามารถของคุณ หรือไม่มีระบบที่ส่งเสริมให้คุณเติบโตขึ้นในสายงานได้ ก็จะยิ่งทำให้ความมั่นใจในตัวเองลดลงแบบไม่รู้ตัว ซึ่งคนที่รู้คุณค่าของตัวเองจะไม่ยอมให้องค์กรปฏิบัติเหมือนเราเป็นเพียงคนนั่งโต๊ะตัวหนึ่งในระบบ ถ้าคุณเจอสิ่งเหล่านี้ซ้ำ ๆ ก็ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่จะย้ายงานใหม่ไปในที่ที่ศักยภาพของคุณได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง
5. เงินเดือนหรือผลตอบแทนไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ลงทุนลงแรง
ในขณะที่คุณต้องรับผิดชอบมากขึ้น ทำงานนอกเวลาแทบทุกวัน หรือแบกทั้งโปรเจกต์ไว้คนเดียว แต่ผลตอบแทนกลับไม่ขยับขึ้นตามแรงที่ลงไป บางคนอยู่มานานจนเงินเดือนตัน แต่ก็ไม่กล้าเปลี่ยนงาน เพราะกลัวเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ หรือกลัวความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ความจริงแล้วตลาดงานเปลี่ยนทุกวันค่ะ และคุณค่าในตัวคุณอาจได้รับการประเมินสูงกว่านี้ หากคุณกล้าเปิดประตูบานใหม่ให้กับตัวเอง การย้ายงานใหม่จึงอาจเป็นโอกาสที่จะรีเซ็ตค่าตอบแทนให้เหมาะสมกับคุณจริง ๆ นะคะ
6. บรรยากาศที่ทำงานทำให้คุณรู้สึกแย่ในทุก ๆ วัน
คุณเคยรู้สึกไหมว่า แค่คิดถึงที่ทำงานก็รู้สึกหมดแรงแล้ว ถ้าคุณต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการนินทา การเมืองในออฟฟิศ หัวหน้าที่ไม่รับฟัง หรือเพื่อนร่วมงานที่แข่งขันแบบไม่สร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้จะบั่นทอนทั้งใจและผลงานของเรา เพราะบรรยากาศในการทำงานมีผลต่อสุขภาพจิตมากกว่าที่คิด ถ้าคุณต้องใช้เวลาชีวิตถึง 8 ชั่วโมงต่อวันในที่ที่ทำให้รู้สึกไม่มีค่า ไม่มีแรงบันดาลใจ หรือไม่ปลอดภัยทางอารมณ์ ก็ไม่ผิดอะไรที่คุณจะเลือกย้ายงานใหม่ไปในที่ที่ใจคุณรู้สึกโอเคนะคะ
7. คุณเริ่มมองหางานใหม่อยู่เงียบ ๆ ในใจแล้ว
คุณอาจจะยังไม่ได้ยื่นใบสมัคร แต่ถ้าคุณเริ่มติดตามเพจหางาน, อัปเดต Resume ไว้ล่วงหน้า, เข้าเว็บไซต์หางานออนไลน์บ่อยกว่าปกติ หรือรู้สึกตื่นเต้นเวลาเห็นประกาศรับสมัครงาน แสดงว่าใจของคุณเริ่มออกเดินทางไปที่อื่นแล้ว ซึ่งเสียงในใจแบบนี้บอกได้ชัดเจนว่า ที่เดิมอาจไม่ใช่ที่ที่คุณอยากอยู่จริง ๆ อีกต่อไป แอดแนะนำว่าอย่ามองข้ามสัญญาณเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เหล่านี้นะคะ เพราะมันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ดี ถ้าคุณกล้าที่จะเชื่อเสียงนั้นแล้ววางแผนเปลี่ยนงานใหม่อย่างรอบคอบ โอกาสดี ๆ ก็อาจรออยู่ไม่ไกลจากจุดที่คุณยืนอยู่ตอนนี้แล้วค่ะ
อยากเปลี่ยนงาน แต่กลัว ทำอย่างไรดี

การลาออกแบบไม่มีแผนอาจนำไปสู่ความเครียดและความไม่มั่นคงได้ ดังนั้น ถ้าคุณรู้ตัวว่ากำลังจะย้ายงานใหม่ แอดก็ขอแนะนำแนวทางเบื้องต้นแบบนี้ค่ะ
- ประเมินเป้าหมายใหม่ของตัวเองให้ชัดเจน ว่าอยากได้อะไรจากการเปลี่ยนงานใหม่
- เช็กสถานะการเงิน วางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้าอย่างน้อย 3 – 6 เดือน
- อัปเดต Resume และ Portfolio ให้พร้อม
- เริ่มหางานใหม่อย่างเงียบ ๆ พร้อมฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์งานไปด้วย
การย้ายงานใหม่ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หรือเป็นสัญญาณของความล้มเหลวอย่างที่คิดกัน แต่มันคือการฟังเสียงหัวใจของตัวเอง และเลือกทางเดินที่สอดคล้องกับคุณในเวอร์ชันปัจจุบัน ถ้าคุณเริ่มเห็นสัญญาณเหล่านี้ และกำลังลังเลอยู่ แอดก็อยากให้คุณรู้ว่า คุณไม่ได้อยู่คนเดียว และคุณมีสิทธิ์เลือกอนาคตที่ดีกว่าเพื่อตัวเองเสมอ เพียงกล้าที่จะก้าว ก็เท่ากับกล้าที่จะเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นนะคะ
โดดเด่น
เครือข่ายมหาวิทยาลัย
บทความอื่นๆ
พาเช็ก 7 สัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าถึงเวลาต้องย้ายงานใหม่แล้ว สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนงาน แต่กลัว เปลี่ยนงานใหม่แล้วเครียด พร้อมแนะแนวทางเตรียมตัวก่อนเริ่มต้นใหม่อย่างมั่นใจ
- 29/04/2568
- 20
เปิดลิสต์ 5 อาชีพมาแรงในปี 2025 ที่ทั้งรายได้ดี อนาคตมั่นคง และเป็นที่ต้องการสูงในตลาดแรงงาน พร้อมเหตุผลว่าทำไมถึงน่าลงทุนและเหมาะกับการเติบโตในยุค AI
- 29/04/2568
- 36
รวมเทคนิคต่อรองเงินเดือนงานใหม่ให้ได้มากขึ้นกับ HR อย่างมีชั้นเชิง พร้อมวิธีเตรียมตัวตอบคำถาม และรู้ข้อควรเลี่ยงที่ผู้สมัครงานไม่ควรมองข้าม
- 24/03/2568
- 202
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของการทำงานในองค์กรขนาดเล็กและองค์กรใหญ่ ทั้งด้านโอกาสก้าวหน้า ความยืดหยุ่น และวัฒนธรรมองค์กร เพื่อช่วยตัดสินใจ แบบไหนเหมาะกับคุณที่สุด
- 11/03/2568
- 220
การทำงานแบบ Hybrid หรือ Hybrid Work เป็นรูปแบบการทำงานที่ผสมผสานระหว่างการทำงานจากที่ออฟฟิศ (On-site) และการทำงานจากที่บ้าน (Remote Work) ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคปัจจุบัน
- 07/03/2568
- 224
Thaijob.com แนะนำ 10 เทคนิคตอบคำถามสัมภาษณ์งาน เพิ่มโอกาสได้งานทันที พร้อมเคล็ดลับเตรียมตัวให้มั่นใจ สร้างความประทับใจ และคว้างานที่ใช่ได้ง่ายขึ้น!
- 30/01/2568
- 532
แชร์เทคนิคเพิ่มเงินเดือนเมื่อย้ายงานใหม่ ให้คุ้มค่าและไม่ขาดทุน พร้อมเคล็ดลับการเตรียมตัวต่อรองเงินเดือน และวางแผนอนาคต เพิ่มโอกาสเติบโตในสายงานได้ง่ายขึ้น
- 23/01/2568
- 239
แนะนำ 5 อาชีพสำหรับ MBTI - INFJ บุคลิกของผู้แนะนำ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
- 06/11/2567
- 835